Google
(ใช้ค้นหาข้อมูลในเว็บบอร์ดนี้เท่านั้น)

ผู้เขียน หัวข้อ: Review สายไฟยอดนิยม 6 เส้น(เพิ่มเป็น10แล้วครับ) ในราคาไม่เกิน 4 หมื่นบาท  (อ่าน 35046 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ตอบ #1513-09-2013, 20:45:26

sittichai

  • Mid-end player

  • ออฟไลน์
  • *

  • 762
  • ข้อความส่วนบุคคล
    ชอบ Home Theater
  • ชุดที่เล่น: Home Theater
  • Music: Metal Rock
  • Movies: Action
 {hot} {hot} {hot}
 like like like
 happy happy รีวิวได้สุดยอดเลยครับน้า แล้วสายที่นำมารีวิว ราคาก็ไม่สูงเกินเอื้มด้วยครับ  happy happy
 1116

ตอบ #1613-09-2013, 21:43:46

smilejung

  • Mini component

  • ออฟไลน์
  • *

  • 124
  • ชุดที่เล่น: HT/2 CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: ทุกประเภท

ตอบ #1713-09-2013, 22:14:59

Blue Falcon

  • Mini component

  • ออฟไลน์
  • *

  • 128
  • ชุดที่เล่น: HT/2 CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: ทุกประเภท
ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับทุกๆคำขอบคุณและกำลังใจที่ได้รับอย่างท่วมท้นครับ.. :05

ผมเองก็ยังมีประสบการณ์ไม่มากนัก หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ใจจริงที่เริ่มทำก็เพราะอยากได้ข้อมูลในลักษณะนี้ แต่หาไม่ค่อยได้ ก็เลยทำมันเองซะเลย  {ho}

ถ้าเพื่อนๆ น้าๆ ท่านใดเคยลองสายที่อยู่ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าวหรือใกล้เคียง แล้วมาช่วยกันเสริมข้อมูลในมุมอื่นๆ หรืออาจจะมีความเห็นที่ต่างออกไปแล้วมาช่วยกันแชร์ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยนะครับ

ยังไงอีกไม่ช้าจะนำรุ่นอื่นๆที่น่าสนใจในราคาไม่เกิน 4 หมื่นมาประลองเพิ่มอีกซัก 2-3 รุ่นดูครับ..

ตอบ #1814-09-2013, 00:10:19

wrh

  • Mini component

  • ออฟไลน์
  • *

  • 135
  • ชุดที่เล่น: เลือก
  • Music: เลือก
  • Movies: เลือก
สุดยอดครับ เป็นแนวทางให้มือใหม่เรื่องสายไฟอย่างผมได้ดีมากๆเลยครับ
 like like like

ตอบ #1916-09-2013, 16:26:49

popoka

  • กลุ่มชอบโม
  • Mini component

  • ออฟไลน์
  • *

  • 115
  • ชุดที่เล่น: Home Theater
  • Music: Pop
  • Movies: Action
สุดยอดเลยครับ  8) ถ้ารวมตัวเพื่อนในวงการเพิ่มขึ้น คงได้ครบทุกยี่ห้อแน่ครับ ^^
แต่คงสรุปผลไม่ไหว เพราะหมดแรงครับ นับถือครับ สุดยอดดดด ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

ตอบ #2016-09-2013, 17:07:25

merpong

  • กลุ่มชอบแชร์
  • Hi-End player

  • ออฟไลน์
  • *

  • 1399
  • ชุดที่เล่น: HT/2 CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: ทุกประเภท

ตอบ #2116-09-2013, 18:50:37

chaiwat

  • Piyanas Owner
  • Hi-End player

  • ออฟไลน์
  • *

  • 1774
  • ชุดที่เล่น: Stereo 2CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: Adventure
  • My Favorites:
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับคุณ Oat สุดยอดมากๆครับ

ตอบ #2217-09-2013, 00:14:05

Piyanas

  • Piyanas Owner
  • Super hi-end player

  • ออฟไลน์
  • *
  • Believe and act as if it were possible to fail !!!

  • 4731
  • ข้อความส่วนบุคคล
    We're a home audio specialist
    • www.piyanas.com
  • ชุดที่เล่น: เลือก
  • Music: เลือก
  • Movies: เลือก
โอ้ อ่านแล้ว  เยี่ยมจริงๆครับ

สิ่งที่สังเกตได้อย่างหนึ่งและอยากจะเสริมก็คือว่า สายไฟแต่ละเส้น เปลี่ยนเข้าไปในแต่ละจุดของ System ก็ให้คุณภาพที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การเติมเต็ม System นอกจาก จะต้องมีสายไฟ คุณภาพสูงแล้ว ยังต้องเติมแต่งให้ถูกจุดอีกด้วยครับ

 สุดยอดจริงๆครับ กระทู้นี้ ('o',)

ตอบ #2318-09-2013, 18:21:03

Blue Falcon

  • Mini component

  • ออฟไลน์
  • *

  • 128
  • ชุดที่เล่น: HT/2 CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: ทุกประเภท
   หลังจากที่ไปเสาะแสวงหาสายไฟที่น่าจะเข้าตากรรมการมาเข้าร่วมประลองในครั้งนี้เพิ่มเติมซัก 2-3 เส้น ผมได้มีโอกาสทดลองฟังเสียงจากสายไฟมากมายหลายยี่ห้อทั้งที่คุ้นหูและที่ไม่ค่อยจะเคยได้ยินกันก็มี ยกตัวอย่างเช่น
   Kimber Kable PK-10 เข้าหัว Wattgate ทอง (330i, 350i)
   Acrolink 7n-p4030ii เข้าหัว Oyaide P004/C004
   Oyaide Tunami เข้าหัว Oyaide 079
   ซึ่งแต่ละเส้นนั้นก็เป็นสายที่ดีและมีจุดอ่อนจุดแข็งในตัว แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่าจะสามารถเอาชนะสายที่ประจำการอยู่ในระบบของผมได้ ถ้าวัดกันเฉพาะในตำแหน่งที่มันถนัดนะครับ ไม่ใช่ภาพรวมทั้งหมด จนกระทั่งผมได้ศึกษาข้อมูลในต่างประเทศอย่างจริงๆจังๆ และก็ได้ค้นพบสายยี่ห้อหนึ่ง ก็คือ HiDiamond ซึ่งเป็นยี่ห้อจากประเทศ Italy ที่เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้างในระยะหลังๆ

   ผมนั่งอ่านเวบบอร์ดเครื่องเสียงที่นิยมๆกันใน 3 ประเทศ อเมริกา แคนาดา และอังกฤษ เมื่อไรก็ตามที่มีการพูดถึงสายเส้นนี้ขึ้นมา ผลตอบรับจากผู้ใช้จะชื่นชมกันอย่างล้นหลาม ทั้งนักเล่นระดับ Hi-End, นักวิเคราะห์, ตัวแทนจำหน่าย หรือแม้แต่ คอลัมนิสต์จากนิตยสารชื่อดังหลายฉบับ มักให้ความเห็นเดียวกันว่า มันเป็นสายที่ดีที่สุดในระดับ Mid-End โดยไม่ต้องเกี่ยงราคา (ซึ่งผมเข้าใจเอาเองว่า ถ้าเจอกับสายใดๆในราคาต่ำแสนลงมาแล้วล่ะก็ ไร้คู่ต่อกรกันเลยทีเดียว) โดยให้คำนิยามว่า มีความเป็นกลางและเที่ยงตรงสูงมาก ผู้เขียนบทความบางท่านกล่าวว่าใช้สาย HiDiamond ในการทดสอบระบบ เพราะเมื่อใส่สายไฟ HiDiamond รุ่น HD 3 หรือ HD 4(รุ่นท็อป) เข้าไปแล้วล่ะก็หากเสียงยังไม่ดีแปลว่าระบบนั้นยังไม่สมบูรณ์ เพราะมันไม่เคยฉุดระบบใดๆในทุกๆแง่ให้แย่ลงเลย (ว่าไปโน่น.... M#5) นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องรายละเอียด เวทีมิติเสียง ความสมจริงต่างๆนาๆ ที่หาข้อเสียไม่มี
   ผมเลยลองคุยกับคุณชัยวัฒน์ว่าเคยคิดเอาสาย HiDiamond มาขายหรือไม่ ซึ่งคุณชัยวัฒน์ก็บอกว่าเคย เพราะข้อมูลที่ได้รับใกล้เคียงกันกับผมนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะมันยังไปได้ไม่สุด เค้าไม่มีแผนการผลิตรุ่นที่สูงกว่านี้ (จบที่รุ่น HD 4) เท่านั้น แต่ผมก็ยังคิดว่า “แค่รุ่น HD 4 นี่ก็ปาเข้าไป 7 หมื่นกว่าแล้ว อย่างเราคงไม่ต้องสุดกว่านี้หรอก ไม่มีตาางงงค์ M#2
   หลังจากนั้นผมก็เลยรีบทุรนทุรายไปหาสายรุ่น HiDiamond 3(ในรูปเป็นแค่ HD 2 แต่หน้าตาคล้ายๆกันครับ) โดยซื้อจากตัวแทนในประเทศไทยมาลองฟังเป็นการด่วน โดยมีราคาค่าตัวประมาณ 2 หมื่นบาท เมื่อได้นำมาลองกับระบบที่บ้าน ผมคิดไว้ก่อนเลยว่า สายระดับนี้แล้ว ไม่ต้องลองกันให้มาก จับชนตัวยืนในแต่ละจุดแบบเข้ารอบชิงไม่ต้องเตะ play off ไปเลยแล้วกัน  ผลที่ได้ในความคิดของผมคือ ไม่มีจุดไหนเลยที่ มันจะเอาชนะตัวยืนเดิมที่ประจำการอยู่ได้ แต่มันก็ไม่ได้ขี้เหร่นะครับ จะทำได้ในระดับกลางๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น
   ตำแหน่ง CD Player Rotel แม้จะสู้ In-Wall หรือ Nordost ไม่ได้ แต่ก็ดีกว่า WireWorld หรือ AQ NRG10
   ตำแหน่ง Power Amp ย่านเสียงสูง ก็ยังทำได้ไม่ดีเท่า AQ NRG10 กับ Nordost 
   ตำแหน่ง Power Amp ย่านเสียงต่ำ ก็เช่นกัน ยังคงแพ้ Furutech Carbon และ WireWorld แต่ยังเหนือกว่า Nordost และ In-Wall
   สุดท้ายตำแหน่งเครื่องกรองไฟ เสียงที่ได้ก็ไม่เท่า Furutech Carbon แต่ก็ไม่เป็นรอง WireWorld และ In-Wall อยู่ดี

   ผมสรุปเอาเองว่ามันเป็นสายที่เที่ยงตรง ให้ความเป็นจริงของดนตรีสูง มายังไงไปอย่างงั้น ไม่ค่อยมีการปรุงแต่ง เสียงทุ้ม กลาง แหลม ทำได้ในระดับกลางๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น รายละเอียดก็มีพอประมาณ แต่ยังหาจุดแข็งจริงจังๆไม่เจอ
นี่ถ้านักวิจารณ์ระดับโลกทั้งหลายเค้ามาเห็นผม Review แบบนี้ ผมคงโดนต้องไล่ออกนอกวงการแน่ๆ
ยังไงเดี๋ยววันศุกร์นี้ช่วงเที่ยงๆ เพื่อให้หายข้องใจ ผมจะขอนำสายเส้นนี้ไปให้ทีมงาน Fortune เพื่อให้ น้าอั๋น อาร์ต น้องโอ ช่วยฟังเป็นสักขีพยานด้วยนะครับ ว่าหูผมมันเพี้ยนรึเปล่า
ป.ล. สายเส้นนี้เป็นสายใหม่แกะกล่องนะครับ ยังไม่ได้เบิร์นใดๆทั้งสิ้น


   มาถึงเส้นสุดท้าย(ที่ผมภูมิใจนำเสนอมาก) ซึ่งผมขอตั้งฉายาให้มันว่าเป็นจอมล้มแชมป์ แล้วกันนะครับ เจ้านี่คือ สายไฟ NeoTech NEP-1001 Pure Silver ซึ่งผมตามหามานานแล้ว

   NeoTech เป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆให้กับ บริษัทใหญ่ๆ หลายค่ายในโลกเกือบสิบยี่ห้อ เช่น Acoustic Zen หรือแม้แต่ Kimber Kable เป็นต้น โดยที่เจ้าตัวกลับไม่ทำการตลาดให้กับแบรนด์ตัวเองเท่าที่ควร แต่นั่นก็ทำให้สินค้า NeoTech สามารถผลิตของคุณภาพสูงได้ในราคาต่ำนั่นเอง สำหรับสายไฟเส้นนี้ เป็นรุ่นท็อปสูงสุด ซึ่งในปัจจุบันคงมีสายไฟไม่กี่เส้นในโลกที่ใช้แกนนำเป็นเงินแท้ทั้งหมด โดยNeoTech ได้ใช้เทคโนโลยี UP-OCC กับสายไฟเงินขนาด 9AWGเส้นนี้ ทำให้เสียงที่ได้มีทั้งเสียงปลายแหลมและรายละเอียดที่ดีเยี่ยม ประกอบกับเสียงย่านกลางต่ำที่สมดุลและลงตัว แต่สำหรับราคาค่าตัวนั้น ผมได้สอบถามไปยังตัวแทนในยุโรปและอเมริกา ได้คำตอบมาว่า สายเส้นนี้จะขายให้กับตัวแทนจำหน่ายของแต่ละประเทศเท่านั้นซึ่งมีอยู่ไม่กี่ที่ในโลก และในเมืองไทยก็ไม่ได้มีเป็นหลักแหล่งมากมายอะไร จะมีก็บางชิ้นบางประเภทเท่านั้น ซึ่งหากผมสั่งซื้อซัก 100 เมตร ก็จะได้ราคาถูก(บ้าไปแล้ว จะเอาไปทำอะไร) แต่ถ้าสั่งมาแค่ 10-20 ฟุต ก็จะโดนไป “ฟุตละ” 8-9 พันบาท ตกเส้นนึงซัก 1.5 m ก็คงราวๆ 4 หมื่นบาท {!!!} ยังไม่รวมหัว เพราะไม่ได้ถามถึงสายแบบ Package ซึ่งก็มีเช่นกัน

   ถึงตรงนี้ผมชักเริ่มเศร้า เฮ้อ.. สงสัยจะอด แต่ก็มีอยู่วันหนึ่งผมไปเจออาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งก็พอเป็นที่รู้จัก และมักจะเจอท่านในงานเครื่องเสียงอยู่เสมอ ปรากฏว่าในsystem ที่ท่านโชว์อยู่ ใช้สายเส้นนี้แบบ Package อยู่กับเครื่องเล่น CD พอเข้าไปสอบถาม ท่านบอกว่าเมื่อก่อนเคยสั่งของ Neotech มาขายอยู่บ้าง แต่สายเส้นนี้มีอยู่เส้นเดียว เอาไว้เสียบตอนออกงานโชว์มาตลอด เสียงดีระดับสาย 8-9 หมื่น ผมเลยเข้าไปขอร้องและออดอ้อน(แทบกราบ..)ว่าผมอยากได้สายเส้นนี้มาก หามานาน ขายให้ผมได้หรือไม่ ท่านตอบว่า ขายแล้วจะเอาอะไรไว้เสียบเวลาโชว์ เพราะไม่มีเส้นไหนที่ท่านขายอยู่เสียงดีกว่านี้ แต่หลังจากทนลูกอ้อนผมไม่ไหว.. ท่านก็ตกลงขายให้ผมแบบราคากันเองมือสอง(เอาเป็นว่ายังอยู่ในสังเวียนนี้ได้ เพราะราคาสูสีกับคู่แข่งอื่นๆ) พอได้ของเสร็จ ผมรีบวิ่งกลับบ้านแบบไม่เหลียวหลัง(กลัวท่านเปลี่ยนใจ {Z})
เมื่อถึงบ้านก็รีบนำมาเสียบฟังแบบเข้ารอบชิงเช่นเดิม คราวนี้ต้องตั้ง นะโม ก่อนฟังว่าอย่าให้เหลวอีกเลย จะหมดมุขแล้ว ผลที่ได้คือ

รอบแรก ตำแหน่ง CD Player   NeoTech NEP-1001 Silver   VS   JPS Labs In-Wall หัว Furutech F11(R)
   ไม่น่าเชื่อเลยครับว่าจะเจอคู่แข่งที่ทำได้ดีกว่า In-Wall เสียงมีรายละเอียดที่ดีกว่า รวมทั้ง Dynamic การผ่อนรับ การเร่งของเสียงทำได้ราบลื่นไม่มีที่ติ มีการคุมจังหวะที่แม่นยำกว่าเล็กน้อย เสียงร้องดูชัดเจน แต่ก็มีพลังและเนื้อหนังที่ไม่บางเกินไป แต่อาจจะมีด้านความโปร่งใสที่ดูยังกิน In-Wall ไม่ลงอยู่นิดๆ
และเมื่อเทียบกับ Nordost Heimdall II ในตำแหน่งเดียวกันนี้  NeoTech สามารถทำได้แทบทุกอย่างที่ Nordost ทำได้ แต่เรื่องความหนักแน่น และพละกำลังที่หายไปจาก Nordost นั้น ยังคงมีอยู่ครบเช่นเดิมไม่หายไปไหน

รอบ 2 ตำแหน่ง Power Amp ย่านเสียงต่ำ   NeoTech NEP-1001 Silver   VS   JPS Labs AC +
   โดยภาพรวม NeoTech ยังคงทำได้ดีกว่าเช่นเดิม เสียงย่านกลางมีความโดดเด่น และยังคงเอชนะไปได้ด้วย Dynamic และการคุมจังหวะที่ดีกว่า แต่เสียงเบสนั้น ถ้าตั้งใจฟังซัก 3-4 รอบก็พอจับได้ว่าเบากว่า AC + อยู่เล็กน้อย ถือว่าสามารถผ่านเข้าสู่รอบรอง ไปพบกับ AudioQuest NRG ได้ครับ


รอบ 3 ตำแหน่ง Power Amp ย่านเสียงสูง   NeoTech NEP-1001 Silver   VS   AudioQuest NRG-10 เข้าหัว AudioQuest NRG-500
     สำหรับด่านนี้ต้องถือว่าหินไม่ใช่เล่น เพราะความหวานและเสียงร้องของ AQ NRG ยังคงตราตรึงใจผมอยู่ไม่รู้ลืม เมื่อเริ่มประชันกันนั้น NeoTech ก็เฉือนขึ้นนำอย่างไม่น่าเชื่อ เสียงร้องมีความชัดเจนกว่า แต่ก็สามารถทอดตัวได้ยาวเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถเฉือนหวิวไปได้ด้วยการแยกเสียงเครื่องดนตรีประเภทโลหะทั้งหลายได้อย่างเด่นชัด ลูกกรุ๊งกริ๊ง และตำแหน่งของเครื่องเคาะถูกแยกออกมาอย่างเป็นอิสระ เอาล่ะสิครับ สายเดิมๆที่บ้านผมเริ่มน้อยใจแล้ว ขอส่งไปเข้ารอบชิงเจอพี่ใหญ่เลยแล้วกัน

รอบชิงชนะเลิศ ตำแหน่งเครื่องกรองไฟ   NeoTech NEP-1001 Silver   VS   Furutech Alpha-3 เข้าหัว Furutech F50 (Carbon)
     ถึงตอนนี้ Furutech Carbon ต้องแบกศักดิ์ศรีของเพื่อนๆสู้สุดชีวิตแล้วล่ะครับ เพราะโดนกันมาเรียงตัวเลย เมื่อสิ้นเสียงนกหวีด ปรากฏว่าทำได้เสมอกันในครึ่งแรกจากรายละเอียดต่างๆ ที่นำเสนอให้ได้ยินอย่างไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งเสียงหายใจ และเสียงลมแผ่วๆที่ค่อยๆผ่านซอกฟันออกมา ผมนั่งจับผิดจนแทบจะเป็นบ้า ก็ยังคงแยกไม่ออกจริงๆ หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง Furutech Carbon ก็ยิงประตูขึ้นนำไปด้วยความหนักแน่นของดนตรี อีกทั้งความโปร่งชัดและสดใสจากอิทธิพลของ Rhodium ในตัว ก็แสดงออกมาให้ได้เห็นกันมากกว่านิดหน่อย แต่ก็นำได้อยู่ไม่นานครับ NeoTech ตีเสมอได้จาก ความละมุนละไมของเสียงที่นุ่มนวล ซึ่งทำได้ดีกว่า Alpha-3/Carbon ซึ่งยังมีความจัดจ้านอยู่นิดๆ แต่ไม่มีให้เห็นกับสาย UP-OCC Silver เลย และแล้ว NeoTech ก็มาได้ประตูชัยขึ้นนำในช่วงทดเวลาเจ็บ จากความหวานของเนื้อร้องและความเป็นดนตรีที่ทำได้ดีกว่า แต่โชคร้ายที่กรรมการเป่าเสียงนกหวีดซะก่อน ในรอบชิงนี้ NeoTech จึงทำได้เพียงเสมอแบบน่าชนะ...

     ต้องขออภัยด้วยนะครับ พอดีช่วงนี้ดูบอลดึกๆบ่อย เลยเขียนผสมปนเปกันมั่วไปหมด..

   ยังไงลำพังผมคนเดียวอาจตัดสินได้ไม่ยุติธรรม ถ้าท่านใดสนใจ วันศุกร์นี้ช่วงเที่ยงๆ ผมจะนำสายทั้งสองเส้นนี้ HiDiamond 3 กับ NeoTech NEP-1001 เข้าไปให้น้าๆที่สาขา Fortune ช่วยตัดสินอีกที กับผลที่ได้ว่าเป็นเช่นไรกันแน่ แล้วจะมาแจ้งให้ทราบต่อไปครับ

ตอบ #2418-09-2013, 22:42:58

wrh

  • Mini component

  • ออฟไลน์
  • *

  • 135
  • ชุดที่เล่น: เลือก
  • Music: เลือก
  • Movies: เลือก
ภาคต่อก็ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมครับ ขอบคุณที่มาแชร์ความรู้ดีๆให้นะครับ  8)

ตอบ #2520-09-2013, 19:46:05

Blue Falcon

  • Mini component

  • ออฟไลน์
  • *

  • 128
  • ชุดที่เล่น: HT/2 CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: ทุกประเภท
   และแล้วช่วงบ่ายวันนี้ผมก็ได้นำสายไฟทั้ง 2 เส้น(HiDiamond 3 กับ NeoTech NEP-1001 Silver) เข้าไปให้น้าๆที่สาขา Fortune ได้ร่วมเป็นสักขีพยาน และช่วยตัดสินให้อย่างเป็นเอกฉันท์ซะที ถึงแม้วันนี้น้าอั๋นจะไม่อยู่ แต่ก็โชคดีที่ได้คุณโอและคุณอาร์ตมาช่วยฟัง ซึ่งโดยส่วนตัวก็รู้สึกชื่นชอบแนวการฟังของคุณโออยู่ไม่น้อย เพราะมักจะให้ความคิดเห็นด้านแนวเสียงต่างๆได้ตรงใจผมนั่นเอง {ho}
   พอได้ฟังข้อมูลเบื้องต้นจากผมแล้วเราก็เห็นพ้องตรงกันว่า คู่ปรับที่น่าจะสมน้ำสมเนื้อและมีแนวเสียงที่ไม่ไกลกันมาก ก็น่าจะเป็นเจ้า Acoustic Art Silver [ราคาประมาณ 18,000 บาท] นั่นเองครับ

   
   เอาล่ะมาเริ่มรอบแรกกันเลยดีกว่า   HiDiamond 3   VS   Acoustic Art Silver
     เราทำการทดสอบด้วยระบบฟังเพลง 2 Ch โดยใช้เสียบกับ เครื่องเล่น CD Acoustic Art ขับลำโพง Proac D40R หลังจากที่ได้ฟังเสียงจากสายไฟทั้ง 2 เส้นแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าแม้สาย HiDiamond 3 จะสามารถทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ในด้านความชัดเจนของเสียงย่านแหลม และดูมีรายละเอียดเล็กๆน้อยที่ดีกว่าแบบแทบไม่ต่างกันเท่าไหร่ นอกจากนี้เสียงยังมีความเปิดโปร่งและฟังดูสดใส ซึ่งคุณโอก็ให้ข้อแนะนำว่าหากนำไปใช้กับระบบจอภาพ เจ้านี่ก็น่าจะทำได้ดีไม่หยอกเช่นกัน
     แต่สุดท้ายแล้วเรากลับต้องยอมให้ Acoustic Art Silver เป็นผู้ชนะผ่านเข้ารอบไปได้ ด้วยความหวานเนียนละมุนละไมที่สูงกว่า เสียงเพลงมี Dynamic ที่ดีกว่า เรียกว่าช่วยให้เข้าถึงอารมณ์เพลง และสามารถสร้างความเป็นดนตรีที่สูงกว่า นอกจากนี้ยังมีเนื้อเสียงรวมถึงความหนักแน่นของเบสที่ให้น้ำหนักที่มากกว่าอย่างที่รู้สึกได้ไม่ยากอีกด้วยครับ
     พอมาถึงตรงนี้ ผมเลยต้องงัดไม้ตาย ขอนำเจ้า NeoTech NEP-1001 Silver มาแก้มือซะหน่อย


  Acoustic Art Silver   VS   NeoTech NEP-1001 Silver
  เมื่อพวกเราได้ลองฟังกันแล้ว ผลที่ได้ก็ทำให้ผมพอยืดได้เล็กน้อยแบบไม่เสียหน้ามากครับ แหะๆ เพราะทันทีที่ได้เริ่มฟัง NeoTech เส้นนี้ ก็รู้สึกได้ทันทีถึงความสงัดของเสียงที่สะอาดมากๆ และเมื่อถึงคราวที่เสียงดนตรีและตัวโน้ตต่างๆเริ่มโหมขึ้นมา ก็แสดงให้เห็นถึงพละกำลังที่มหาศาลจริงๆ เสียงมี Dynamic Contrast และการผ่อนหนักผ่อนเบาที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงเวทีเสียง และมิติต่างๆก็ยังสามารถทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ซึ่งก็ส่งผลให้เจ้า NeoTech ได้เป็นผู้ชนะใน Match นี้ไปแบบไม่ยากเย็นนัก


   แต่หากมองถึงการเทียบรุ่นแล้ว เจ้า NeoTech อาจจะเป็น Series ที่สูงกว่าอยู่ซักหน่อย ทางคุณโอจึงขอส่งคู่ต่อสู้แบบฟ้าประทาน ซึ่งก็คือ JPS Labs Kaptovator ในตำนานนั่นเอง


   เรียกได้ว่าเป็นศึกมหาเทพ “เอล กลาซิโก” ขนาดย่อมๆเกิดขึ้นในห้องฟังเพลงที่สาขา Fortune เลยทีเดียวครับ  {A2}
   ระหว่าง   JPS Labs Kaptovator   VS   NeoTech NEP-1001 Silver

   เมื่อเริ่มต้นฟังดูแรกๆนั้น ยังมีความสูสีคู่คี่ในเบื้องต้น ทั้งคู่ทำได้ดีในด้านการแยกเสียง ทั้งเสียงกลางแหลม ก็ให้รายละเอียดออกมาได้ใกล้เคียง หรือจะเป็นความหนักแน่นของเสียงเบสในย่านต่ำก็ยังคงกินกันไม่ลงอยู่ดี นอกจากนี้แม้จะมองไปในเรื่องความสงัดของเสียงเจ้า NeoTech ก็ยังคงขึ้นนำไม่ได้ เรียกว่าหนีไม่ออกเลยทีเดียวครับ
   เมื่อเวลาผ่านไปถึงช่วงกลางของการประลอง Kaptovator ก็เริ่มวาดลวดลายที่เหนือชั้น และฉีกตัวขึ้นนำ จากเวทีและมิติของเสียง ซึ่งมีความลึกของดนตรีและSound Stage ที่ดีกว่า ความละมุนละไมและพิถีพิถันของน้ำเสียงนั้น ทำได้แนบเนียนกว่า ถึงแม้ NeoTech จะสามารถตีตื้นมาด้วย พละกำลังที่สูงส่ง โดยเฉพาะเมื่อพ้นช่วง Intro และเข้าสู่ช่วงพีคของเพลง ซึ่งสามารถทำให้เกิดความรู้สึกที่โอ่อ่ายิ่งใหญ่ขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะแซงขึ้นนำ Kaptovator ได้
   จนในที่สุด เจ้าKaptovator ก็มาได้ประตูตอกฝาโลง ยืนยันชัยชนะไปได้ ด้วยการแยกตำแหน่งชิ้นดนตรีต่างๆ ที่สามารถแยกแยะแจกแจงออกมาเป็นชิ้นๆอย่างหลุดลุ่ย กระจัดกระจายไปทั่วห้อง จนรู้สึกได้ถึงตำแหน่งของนักร้อง กีตาร์ เบส กลอง หรือแม้แต่กระเดื่องและฉาบ ที่สมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกว่ามีกลิ่นอายของ Aluminata โชยมาให้ได้สัมผัสกันพอหอมปากหอมคอเลยทีเดียว
   หลังจากดื่มด่ำกับความเป็นดนตรีที่สมจริงมากๆได้ซักพัก ผมก็ตัดสินใจวางเงินมัดจำเจ้า JPS Labs Kaptovator ไว้เรียบร้อยโรงเรียนปิยนัส ฟอร์จูน  ระหว่างนี้ก็เฝ้ารอให้ถึงวันที่ผมได้เจ้าของสถิติค่าตัวสูงสุดไปเข้าร่วมทีมเมื่อไหร่ คงนอนฟังเพลงอยู่บ้านแบบไม่ยอมออกไปไหนกันเลยทีเดียวครับ... 1140

ตอบ #2621-09-2013, 07:48:59

konnonth

  • Mid-end player

  • ออฟไลน์
  • *

  • 726
  • ชุดที่เล่น: HT/2 CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: ทุกประเภท
สรุปสุดท้าย ลองเพื่อ "เสียเงิน"  นี่เอง  <<grinA>> <<grinA>>


ชอบข้อเขียนกระทู้นี้มากครับ  เขียนต่อเรือย ๆ อย่าขึ้นกระทู้ใหม่นะครับ

ทำให้เป็นสตาร์วอร์ 9 ตอนจบเลย  8) 8)


 like like

Home Theater
A/V Receiver                 DENON AVR X2100W --> [AudioQuest NRG-2]
Bluray player                OPPO BDP-93 --> [Shark Wire Blue Sea Classic]  //  HDMI cable  : AQ  Carbon
Network Audio Player  Cambridge Audio NP30 -->  [AudioQuest  NRG-1us]   RCA cable :  Shark Wire Blue Sea Classic  //  USB Cable : AQ Carbon (A to Micro)(USB 3.0)  
Line Conditioner-Stabilizer    Clef POWERBRIDGE 8s
Front Speaker         Martin Logan : Motion 2 (gloss black)  >>>  AQ Rocket 88
Center Speaker       Castle Compact center  >>>   AQ Rocket 88
Surround Speaker   Mordaunt Short CARNIVAL1  >>>   MoniterKable IN-AKUSTIK : STAR (2 x 2.5)
SubWoofer            Paradigm PDR-100  >>>   AQ Sub-X > & AQ FLX-XRCA SPLITTER (Female to 2 Male) --> [AudioQuest NRG-1.5]

Music 2 CH
Integrated Amp   Rotel RA-1570  --> [AudioQuest NRG-10 & Wattgate : 330i & 350i]
SACD Player     Marantz SA-KI Pearl Lite -->  [JPS POWER AC IN-WALL CABLE & Wattgate : 5266i & 320i]  RCA cable : InAkustik NF-1603   
Network Audio Player  Cambridge Audio CXN --> [ACCUSTIC ARTS POWER CORD-FERRITE II]   RCA cable : AudioQuest Columbia (72V DBS) (XLR) (1.0M) //  USB Cable : AQ Carbon (A to Micro)(USB 3.0) & AudioQuest JitterBug Filter  
Turntable      Rega :RP-6
Line Conditioner-Stabilizer   Magnet IRG-600 --> [AudioQuest NRG-10 & AudioQuest NRG-500]
Speaker         Tannoy Revolution XT-6F (MEDIUM OAK)   >>>  [JPS Superconductor+ Petite] & Aluminata Jumpers - 6"

ตอบ #2730-09-2013, 09:16:04

konnonth

  • Mid-end player

  • ออฟไลน์
  • *

  • 726
  • ชุดที่เล่น: HT/2 CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: ทุกประเภท
แอบเห็น

Pre/Pro                : Rotel RSP-1572          / AC JPS Labs Kaptovator

คงต้องมาเขียนต่อได้แล้วนะครับ  {ho}


ถ้าเป็นไปได้ ลองสลับไปเสียบ CDP ด้วย อยากทราบผลเหมือนกัน  #Think#

Home Theater
A/V Receiver                 DENON AVR X2100W --> [AudioQuest NRG-2]
Bluray player                OPPO BDP-93 --> [Shark Wire Blue Sea Classic]  //  HDMI cable  : AQ  Carbon
Network Audio Player  Cambridge Audio NP30 -->  [AudioQuest  NRG-1us]   RCA cable :  Shark Wire Blue Sea Classic  //  USB Cable : AQ Carbon (A to Micro)(USB 3.0)  
Line Conditioner-Stabilizer    Clef POWERBRIDGE 8s
Front Speaker         Martin Logan : Motion 2 (gloss black)  >>>  AQ Rocket 88
Center Speaker       Castle Compact center  >>>   AQ Rocket 88
Surround Speaker   Mordaunt Short CARNIVAL1  >>>   MoniterKable IN-AKUSTIK : STAR (2 x 2.5)
SubWoofer            Paradigm PDR-100  >>>   AQ Sub-X > & AQ FLX-XRCA SPLITTER (Female to 2 Male) --> [AudioQuest NRG-1.5]

Music 2 CH
Integrated Amp   Rotel RA-1570  --> [AudioQuest NRG-10 & Wattgate : 330i & 350i]
SACD Player     Marantz SA-KI Pearl Lite -->  [JPS POWER AC IN-WALL CABLE & Wattgate : 5266i & 320i]  RCA cable : InAkustik NF-1603   
Network Audio Player  Cambridge Audio CXN --> [ACCUSTIC ARTS POWER CORD-FERRITE II]   RCA cable : AudioQuest Columbia (72V DBS) (XLR) (1.0M) //  USB Cable : AQ Carbon (A to Micro)(USB 3.0) & AudioQuest JitterBug Filter  
Turntable      Rega :RP-6
Line Conditioner-Stabilizer   Magnet IRG-600 --> [AudioQuest NRG-10 & AudioQuest NRG-500]
Speaker         Tannoy Revolution XT-6F (MEDIUM OAK)   >>>  [JPS Superconductor+ Petite] & Aluminata Jumpers - 6"

ตอบ #2830-09-2013, 09:53:12

Blue Falcon

  • Mini component

  • ออฟไลน์
  • *

  • 128
  • ชุดที่เล่น: HT/2 CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: ทุกประเภท
ไว้่ว่างๆ จะจัดให้ครับผม...

ช่วงนี้กำลังบ้าอยู่กับสาย RCA น่ะสิครับ เดี๋ยวอีกไม่นานคงต้องขึ้นกระทู้ใหม่ "Review สุดยอดสาย RCA แห่งยุค"

ตัวที่เข้าประกวดก็ที่เห็นๆเลยครับ

AQ : Sky, Colorado, Columbia
JPS Sup-3
NeoTech NEI-1001
HiDiamond
์Nordost Heimdall II
อะไรประมาณนี้ล่ะครับ  {Z}

ตอบ #2930-09-2013, 10:25:57

konnonth

  • Mid-end player

  • ออฟไลน์
  • *

  • 726
  • ชุดที่เล่น: HT/2 CH
  • Music: ฟังหมดทุกประเภท
  • Movies: ทุกประเภท
ไว้่ว่างๆ จะจัดให้ครับผม...

ช่วงนี้กำลังบ้าอยู่กับสาย RCA น่ะสิครับ เดี๋ยวอีกไม่นานคงต้องขึ้นกระทู้ใหม่ "Review สุดยอดสาย RCA แห่งยุค"

ตัวที่เข้าประกวดก็ที่เห็นๆเลยครับ

AQ : Sky, Colorado, Columbia
JPS Sup-3
NeoTech NEI-1001
HiDiamond
์Nordost Heimdall II
อะไรประมาณนี้ล่ะครับ  {Z}


รออ่านเลยครับรีวิวชุดนี้


เผื่อจะตามไปบ้าต่อบ้าง แอบเห็นลงขายอยู่ น้ำลายหยด แต่น้ำตาริน เพราะน้ำเงินถดถอย  M#2

Home Theater
A/V Receiver                 DENON AVR X2100W --> [AudioQuest NRG-2]
Bluray player                OPPO BDP-93 --> [Shark Wire Blue Sea Classic]  //  HDMI cable  : AQ  Carbon
Network Audio Player  Cambridge Audio NP30 -->  [AudioQuest  NRG-1us]   RCA cable :  Shark Wire Blue Sea Classic  //  USB Cable : AQ Carbon (A to Micro)(USB 3.0)  
Line Conditioner-Stabilizer    Clef POWERBRIDGE 8s
Front Speaker         Martin Logan : Motion 2 (gloss black)  >>>  AQ Rocket 88
Center Speaker       Castle Compact center  >>>   AQ Rocket 88
Surround Speaker   Mordaunt Short CARNIVAL1  >>>   MoniterKable IN-AKUSTIK : STAR (2 x 2.5)
SubWoofer            Paradigm PDR-100  >>>   AQ Sub-X > & AQ FLX-XRCA SPLITTER (Female to 2 Male) --> [AudioQuest NRG-1.5]

Music 2 CH
Integrated Amp   Rotel RA-1570  --> [AudioQuest NRG-10 & Wattgate : 330i & 350i]
SACD Player     Marantz SA-KI Pearl Lite -->  [JPS POWER AC IN-WALL CABLE & Wattgate : 5266i & 320i]  RCA cable : InAkustik NF-1603   
Network Audio Player  Cambridge Audio CXN --> [ACCUSTIC ARTS POWER CORD-FERRITE II]   RCA cable : AudioQuest Columbia (72V DBS) (XLR) (1.0M) //  USB Cable : AQ Carbon (A to Micro)(USB 3.0) & AudioQuest JitterBug Filter  
Turntable      Rega :RP-6
Line Conditioner-Stabilizer   Magnet IRG-600 --> [AudioQuest NRG-10 & AudioQuest NRG-500]
Speaker         Tannoy Revolution XT-6F (MEDIUM OAK)   >>>  [JPS Superconductor+ Petite] & Aluminata Jumpers - 6"

Google
(ใช้ค้นหาข้อมูลในเว็บบอร์ดนี้เท่านั้น)